วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ระบบสารสนเทศ (Information System)

ระบบสารสนเทศ (Information System) คือ ขบวนการประมวลผลข่าวสารที่มีอยู่ ให้อยู่ในรูปของ
ข่าวสารที่เป็นประโยชน๋สูงสุด ระบบสารสนเทศจึงเป็นระบบที่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อปฏับัติการเกี่ยวกับข้อมูลดังต่อไปนี้
1. รวบรวมข้อมูลทั้งภายใน ภายนอก ซึ่งจำเป็นต่อหน่วยงาน
2. จัดกระทำเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อให้เป็นสารสนเทศที่พร้อมจะใช้ประโยชน์ได้
3. จัดให้มีระบบเก็บเป็นหมวดหมู่
4. มีการปรับปรุงข้อมูลเสมอ

เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information)
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ประมวลผลและการเผยแพร่สารสนเทศ ให้ได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์โดยอาจรวมถึง
1. เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ
2. กระบวนการในการนำอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ข้างต้นมาใช้งาน เพื่อรวบรวม จัดเก็บ ประมวลผลและแสดงผลลัพธ์เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ
ระบบสารสนเทศที่ใช้ในองค์กร สามารถแบ่งเป็น 7 ประเภท คือ
1. ระบบการประมวลผลทางธุรกิจ (Transaction Processing System : TPS)
ระบบการประมวลผลทางธุรกิจ มักเป็นการประมวลผลต่อวัน เช่น การรับ-จ่ายบิล ระบบนี้เป็นระบบสารสนเทศลำดับแรกที่ได้รับ การพัฒนาให้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ลักษณะเด่นของระบบ TPS คือ การทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานง่าย ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน สิ่งที่องค์กรจะได้รับเมื่อใช้ระบบนี้ คือ
2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System : MIS)
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ คือระบบที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารที่ต้องการ การประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้ประโยชน์มากกว่าการช่วยงานแบบต่อวัน MIS จึงมีความสามารถในการคำนวณเปรียบเทียบข้อมูล ซึ่งมีความหมายต่อการจัดการและบริหารงานเป็นอย่างมาก
คุณสมบัติของระบบ MIS คือ
- ระบบ MIS สนับสนุนการทำงานของระบบประมวลผลข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลรายวัน
- ระบบ MIS จะใช้ฐานข้อมูลที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน
- ระบบ MIS จะช่วยให้ผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูงเรียกใช้ข้อมูลที่เป็นโครงสร้างได้ตามเวลาที่ต้องการ
3. ระบบช่วยตัดสินใจ (Decision Support System : DSS)
ระบบช่วยตัดสินใจ หมายถึง ระบบที่ทำหน้าที่จัดเตรียมสารสนเทศ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ หากเป็นการใช้โดยผู้บริหารระดับสูง เรียกว่า “ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อผู้บริหารระดับสูง” (Executive Support System : ESS) บางครั้งสารสนเทศที่ TPS และ MIS ไม่สามารถช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้จึงจำเป็นต้องพัฒนาระบบช่วยตัดสินใจ DSS ขึ้นเพื่อช่วยในการตัดสินใจภายใต้ผลสรุปและการเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งอื่น
คุณสมบัติของระบบ DSS คือ
- ระบบ DSS จะต้องช่วยผู้บริหารในกระบวนการตัดสินใจ
- ระบบ DSS ต้องเป็นระบบที่โต้ตอบกับผู้ใช้ได้
- ระบบ DSS ต้องสามารถติดต่อกับฐานข้อมูลขององค์กรได้
- ระบบ DSS มีความยืดหยุ่นพอที่จะรับรองรูปแบบการบริหารแบบต่างๆ
4. ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง(Executive Information System : EIS)
ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง คือ MIS ประเภทพิเศษที่ถูกพัฒนาสำหรับผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะช่วยผู้บริหารระดับสูงที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถใช้ระบบสารสนเทศได้งายขึ้น โดยใช้เมาส์เลื่อนหรือจอภาพแบบสัมผัส
คุณสมบัติของระบบ EIS
- มีการใช้งานบ่อย
- ไม่ต้องมีทักษะทางคอมพิวเตอร์สูง
- การใช้งานใช้ในการตรวจสอบ ควบคุม
- การใช้งานกราฟิกสูง จะใช้รูปแบบการนำเสนอต่างๆ
- ความรวดเร็วในการตอบสนองรวดเร็วทันทีทันใด
ข้อด้อยของระบบ EIS
1. มีข้อจำกัดในการใช้งาน
2. ยากต่อการประเมินผลประโยชน์ที่ได้จากระบบ
3. ไม่สามารถทำการคำนวณที่ซับซ้อนได้
4. ระบบอาจจะใหญ่เกินกว่าที่จะจัดการได้
5. ยากต่อการรักษาข้อมูลให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
6. ก่อให้เกิดปัญหาการรักษาความลับของข้อมูล
5. ระบบสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation System : OAS)
ระบบสำนักงานอัตโนมัติ หมายถึง ระบบสารสนเทศที่ใช้บุคลากรน้อยที่สุด โดยอาศัยเครื่องมือแบบอัตโนมัติและระบบสื่อสารเชื่องโยงข่าวสารระหว่างเครื่องมือเหล่านั้นเข้าด้วยกัน ซึ่งมีรูปแบบการใช้งาน 2 ลักษณะ คือ
1. รูปแบบของระบบงานพิมพ์และการประมวลผลทางอิเล็กทรอนิกส์ ไดแก่ E-mail , Fax
2. รูปแบบการประชุมทางไกลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การประชุมทางไกลแบบมีแต่เสียง (Audio Conferencing) การประชุมทางไกลแบบมีทั้งภาพและเสียง (Video - ferencing)
สำนักงานที่จัดว่าเป็นสำนักงานอัตโนมัติ ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ คือ
1. Networking System คือ ระบบข่ายงานที่เชื่องโยงระบบคอมพิวเตอร์ระหว่างกันทั่วองค์กร
2. Electronic Data Interchange คือ การสื่อสารข้อมูลระหว่างกันโดยอาศัยสัญญาณข้อมูลข่าวสารแบบอิเล็กทรอนิกส์
3. Internet Working (Internet) คือ การรวมตัวกันของระบบข่ายงาน ที่กระจายอยู่ทั่วโลกจนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่
4. Paperless System คือ ระบบที่ไม่ใช้กระดาษ อาทิ Post Of Sale (POS) เป็นการขายแบบ มีการบันทึกรายการขายและรายละเอียดอื่นที่เกี่ยวกับสินค้าทันทีที่มีการขาย ณ จุดขายนั้นๆ
6. ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Artifcial Intelligence / Expert System : AI/ES)
ระบบผู้เชี่ยวชาญ หมายถึง ระบบที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดสาขาหนึ่งเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์เหตุผล เพื่อตัดสินใจ เช่น การวินิจฉัยความผิดพลาดของรถจักรดีเซลไฟฟ้าโดยใช้คอมพิวเตอร์ และยังต้องนำซอฟแวร์เข้ามาช่วยได้แก่ ระบบ Call Center
7. ระบบ Call Center
- สามารถตอบสนองได้อย่างสมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพ
- สนับสนุนการให้บริการช่วยเหลือทางด้านเทคนิคการให้บริการข้อมูล ข่าวสารที่ต้องการประชาสัมพันธ์ และสาระความรู้ต่างๆ ที่ลูกค้าควรทราบ
- ลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารที่ซับซ้อนและที่สำคัญที่สุด คือ ได้รับบริการที่ตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจสูงสุด

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยว


จังหวัด เชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติออบขาน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๔๘๔ ตารางกิโลเมตร หรือ ๓๐๒,๕๐๐ ไร่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สะเมิง หางดง แม่วาง และสันป่าตอง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนและหินอัคนี ประกอบด้วยป่าประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ดิบเขา สนเขา ดิบแล้ง เบญจพรรณ และ เต็งรัง เป็นต้นกำเนิดน้ำแม่วาง น้ำแม่วิน และน้ำแม่ขาน และที่นี่เป็นแหล่งที่พบเอื้องมณีไตรรงค์แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งจะบานในช่วงเดือนมกราคม

สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่ ออบขาน มีลักษณะคล้ายออบหลวง เป็นช่องหน้าผา ชันแต่มีขนาดเล็กกว่าสูงประมาณ ๓๐ เมตรซึ่งมีแม่น้ำแม่ขานไหลผ่านกลาง และมีลักษณะเว้าแหว่งเป็นรูปทรงต่าง ๆซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ

การเดินทาง จากเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนเลียบคลองชลประทาน ทางหลวงหมายเลข ๑๒๑ เป็นทางลาดยาง ไปทางอำเภอหางดงประมาณ ๑๕ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาตามถนน รพช . สายน้ำแพร่- ออบขานไปอีก ๑๐ กิโลเมตร( เป็นทางลาดยาง สลับทางลูกรังมีความชันและโค้ง) ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ ๔๕๐ เมตร จะถึงออบขาน

ห้วยหญ้าไซ มีระดับน้ำค่อนข้างตื้น เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ บริเวณริมฝั่งมีหญ้าไซขึ้นปกคลุมเขียวขจีและออกดอกสวยงาม ถัดจากห้วยหญ้าไซไปเพียง ๕๐๐ เมตร มีผาเตี้ย ๆ เรียกว่า ผาตูบ ลักษณะเป็นชะง่อนหินใหญ่ที่ถูกสายน้ำกัดเซาะจนมีรูปร่างแปลกตาน่าชม ห้วยหญ้าไซอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ ๑ กิโลเมตร

สถานที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น ห้วยโป่งที่อยู่ห่างจากที่ทำการไปประมาณ ๒ กิโลเมตร สามารถลงเล่นน้ำได้ ผาลาย น้ำตกขุนป๋วย น้ำตกแม่เตียน ถ้ำดอยโตน น้ำพุร้อนแม่โต๋ น้ำตกมรกต น้ำตกแม่มูด น้ำตกขุนวิน น้ำตกแม่วาง และ ถ้ำตั๊กแตน ละมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จัดไว้เหมาะสำหรับพาเด็กนักเรียนมาเข้าค่าย ธรรมชาติ

เวียงท่ากาน บ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง เป็นเวียงเก่าแก่เวียงหนึ่งในสมัยหริภุญชัย สันนิษฐานว่าสร้างประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓ สมัยพระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์ผู้ครองแคว้นหริภุญชัยสืบต่อมาจนถึงสมัยพญามัง รายช่วงก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ โบราณสถานที่สำคัญอยู่บริเวณกลางเมืองในเขตโรงเรียน คือ วัดท่ากาน และวัดต้นกอก โบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระพุทธรูปหินทราย พระพุทธรูปดินเผา พระพิมพ์จำนวนมาก ไหเคลือบสีน้ำตาลบรรจุกระดูก เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ.๑๘๒๓-๑๙๑๑) และพระบุทองคำ

สถานที่ท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติออบขาน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๔๘๔ ตารางกิโลเมตร หรือ ๓๐๒,๕๐๐ ไร่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สะเมิง หางดง แม่วาง และสันป่าตอง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนและหินอัคนี ประกอบด้วยป่าประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ดิบเขา สนเขา ดิบแล้ง เบญจพรรณ และ เต็งรัง เป็นต้นกำเนิดน้ำแม่วาง น้ำแม่วิน และน้ำแม่ขาน และที่นี่เป็นแหล่งที่พบเอื้องมณีไตรรงค์แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งจะบานในช่วงเดือนมกราคม

สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ออบขาน มีลักษณะคล้ายออบหลวง เป็นช่องหน้าผา ชันแต่มีขนาดเล็กกว่าสูงประมาณ ๓๐ เมตรซึ่งมีแม่น้ำแม่ขานไหลผ่านกลาง และมีลักษณะเว้าแหว่งเป็นรูปทรงต่าง ๆซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ

การเดินทาง จากเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนเลียบคลองชลประทาน ทางหลวงหมายเลข ๑๒๑ เป็นทางลาดยาง ไปทางอำเภอหางดงประมาณ ๑๕ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาตามถนน รพช . สายน้ำแพร่- ออบขานไปอีก ๑๐ กิโลเมตร( เป็นทางลาดยาง สลับทางลูกรังมีความชันและโค้ง) ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ ๔๕๐ เมตร จะถึงออบขาน

ห้วยหญ้าไซ มีระดับน้ำค่อนข้างตื้น เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ บริเวณริมฝั่งมีหญ้าไซขึ้นปกคลุมเขียวขจีและออกดอกสวยงาม ถัดจากห้วยหญ้าไซไปเพียง ๕๐๐ เมตร มีผาเตี้ย ๆ เรียกว่า ผาตูบ ลักษณะเป็นชะง่อนหินใหญ่ที่ถูกสายน้ำกัดเซาะจนมีรูปร่างแปลกตาน่าชม ห้วยหญ้าไซอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ ๑ กิโลเมตร

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วันคริสต์มาส





ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลที่สำคัญ เทศกาลหนึ่งของชาวคริสต์ เทศกาลสำคัญที่ว่านี้คือ เทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นเทศกาลฉลองการประสูติของพระคริสต์เทศกาลคริสต์มาสจะจัดขึ้นในวันที่ 24 และ 25 ธันวาคมของทุกปี ในบางประเทศคริสต์มาสอาจจะเริ่มก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งเดือน ช่วงเวลานี้เรียกว่า "แอดเวนท์" (มาจากภาษาลาติน แปลว่า "กำลังมา") และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 6 มกราคมซึ่งเป็นวันที่นักปราชญ์สามคนที่มาจากทิศตะวันออกนำของขวัญมามอบแก่ พระกุมารเยชู ด้วยเหตุนี้ในคืนวันที่ 6 มกราคม จึงเป็นคืนแห่งการมอบของขวัญในหลาย ๆ แห่งของโลก
และเมื่อวันคริสต์มาสอันเป็นวัดสุดยอดของเทศกาลมาถึง การเฉลิมฉลองก็จะเริ่มขึ้น ในช่วงเทศกาลนี้บ้านเรือนจะถูกตกแต่งให้สดใสอบอุ่นด้วยต้นคริสต์มาสที่ ประดับประดาเอาไว้อย่าง สวยงาม ที่ใต้ต้นคริสต์มาสจะมีของขวัญวางเรียงไว้มากมาย ประตูบ้านและขอบเตาผิงจะถูกตกแต่งด้วยหรีดกิ่งสนและฮอลลีในเดนมาร์กมีการประ ดับกิ่งเบริร์ชด้วยผลแอปเปิ้ลสีแดงผลเล็ก ๆ และคนแคระตังจิ๋วที่เรียกว่า "พิสเชอร์" ในนอรเวและสวีเดนมีการทำสัตว์ตัวเล็ก ๆ จากฟางแล้วผูกด้วยริบบิ้นสีแดง
เมื่อพูดถึงอาหารในวันคริสต์มาสจะมีอาหารพิเศษมากมายทั้งไก่งวงที่แสนอร่อย เนื้ออบก้อนโตซอสแครนเบอร์รรี ขนมพาย พุดดิง เค้กและคุกกี้เป็นร้อย ๆชนิด ที่ฝรั่งเศษมีการทำเค้กพิเศษเป็นรูปขอนไม้รสชาติเข้มข้นที่เรียกว่า บุช เดอ โนแอล (ขอยไม้คริสต์มาส)และหลังจากอาหารค่ำที่แสนวิเศษผ่านไปนาทีอันน่าระทึกใจก็ มาถึงนั่นก็คือการแกะของขวัญนั่นเอง คริสต์มาสเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่มีเรื่องให้พูดถึงไม่รู้เบื่อ สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะฉลองเทศกาลนี้ก็ขอให้มีความสุขมาก ๆ

ทุกวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี จะมีการฉลองรื่นเริงในหมู่คริสต์ศาสนิกชนทั่วโลก กิจกรรมในวันนี้มีแต่สิ่งที่น่ารื่นรมย์ไม่ว่าจะเป็นการกินเลี้ยง แลกของขวัญ แต่งบ้านด้วยต้นคริสต์มาส ร้องเพลงคริสต์มาส ไปจนถึงเอาถุงเท้าไปแขวนรอซันตาคลอสผู้อารีย์นำของขวัญมาใส่ไว้ให้
วันคริสต์มาสมีความสำคัญคือ เป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ พระเยซูเป็นชาวยิว ประสูติในประเทศปาเลสไตน์ ซึ่งเดิมตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศใกล้เคียงมาเป็นเวลาช้านาน มีนักปราชญืชาวยิวหลายท่านพยากรณ์ว่า วันหนึ่งข้างหน้าจะมีพระบุตรของพระเจ้าเสด็จลงมาปลดแอกชาวยิวให้ได้รับอิสระ ภาพในที่สุดวันนั้นก็มาถึง เมื่อพระเยซูประสูติที่หมู่บ้านเบธเลเฮม แคว้นยูดา มารดาของพระองค์ชื่อมาเรีย (ซึ่งเรารู้จักในนามแม่พระ) บิดาชื่อโยเซฟมีอาชีพเป็นช่างไม้
พระเยซูทรงพระปรีชาสามารถมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์สามารถโต้ตอบกับพระชาวยิว ในด้านศาสนาได้อย่างฉะฉาน ชีวิตในตอนต้นของพระองค์ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายทรงมีอาชีพเป็นช่างไม้ช่วย บิดา จนพระชนมายุราว 30 พรรษา จึงเสด็จออกประกาศคำสอนและทรงรักษาคนป่วยประเภทต่าง ๆเช่น คนตาบอด ง่อยเปลี้ย ให้กลับเป็นปกติดังเดิม
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลกเช่นเดียวกับศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ




วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ยุคเทคโนโลยีสมัยใหม่แม้ว่าเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ยังไม่มีอะไรใหม่ แต่เทคโนโลยี วัสดุ อาทิ Carbonfiber ที่มีน้ำหนักเบา แต่แข้งแกร่ง ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิง เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ก้าวหน้าสามารถคำนวณการควบคุมส่วนต่างๆ ของเครื่องบินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดภาระของนักบิน แทนที่จะต้องคอยควบคุมปุ่มและคันบังคับต่างๆ เหลือเพียงตัดสินใจและสั่งงานเท่านั้น เทคโนโลยีนี้รวมเรียกว่า Fly by Wire ทำให้การทำภารกิจของนักบินโดยเฉพาะการรบดียิ่งขึ้นเพราะไม่ต้องคอยกังวลกับการควบคุมเครื่องบิน อีกอย่างหนึ่ง ข้อดีสำหรับการบินเชิงพาณิชย์ ก็คือ ลดความผิดพลาดจากการบินอันเป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ลง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถ้านักบินบังคับเครื่องบินผิดพลาดจนอาจจะเกิดอุบัติเหตุ คอมพิวเตอร์จะเตือน หรือแม้แต่จะตัดการควบคุม เปลี่ยนให้การบินกลับมาสู่ความปลอดภัยได้ เช่น กรณีนักบินต้องการบังคับเครื่องให้ชนหรือตกโดยตั้งใจ

เทคโนโลยี


การสื่อสารผ่านดาวเทียม (satellite-based communication) เนื่องจากท้องที่ทางภูมิศาสตร์เต็มไปด้วยภูเขา หุบเขา หรือเป็นเกาะอยู่ในทะเล การสื่อสารที่ดีวิธีหนึ่งคือการใช้ดาวเทียม ดาวเทียมได้รับการส่งให้โคจรรอบโลก โดยมีการเคลื่อนที่ไปพร้อมกับการหมุนของโลก ทำให้ดาวเทียมอยู่ในตำแหน่ง คงที่เมื่อมองจากพื้นโลก ดาวเทียมจะมีเครื่องถ่ายทอดสัญญาณติดตั้งอยู่ การสื่อสารโดยผ่านดาวเทียมจะทำโดยการส่งสัญญาณสื่อสารจากสถานีภาคพื้นดินแห่งหนึ่งขึ้นไปยังดาวเทียม เมื่อดาวเทียมรับก็จะส่งกลับมายังสถานีภาคพื้นดินอีกแห่งหนึ่งหรือหลายแห่ง เราจึงใช้ดาวเทียมเพื่อแพร่ภาพสัญญาณโทรทัศน์ได้ การรับจะครอบคลุมพื้นที่ที่ดาวเทียมลอยอยู่ ซึ่งจะมีบริเวณกว้างมากและทำได้โดยไม่มีอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ เช่น มีแนวเขาบังสัญญาณ ดาวเทียมจึงเป็นสถานีกลางที่ถ่ายทอดสัญญาณจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2551

การจัดการสำนักงานอัตโนมัติ

การจัดสำนักงานอัตโนมัติ(Office automation)
หรือเรียกย่อๆๆว่า OA มาใช้ในการจัดการสำนักงาน
เพื่อให้ผู้บริหารมองเห็นความสำคัญของคอมพิวเตอร์
วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดสำนักงานอัตโนมัติ
1) ต้องการความสะดวก
2)ต้องการสั่งผ่านสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง
3)เพื่อลดปริมาณคนงาน
4)ต้องการความยืดหยุ่น
5)เพื่อที่จะสามารถขยายงานต่อไปได้ในอนาคต
ประโยชน์ของสำนักงานอัตโนมัติ มีดังนี้
1)ได้ข้อมูลรวดเร็วทันกับควสมต้องการ
2)ประหยัด
3)เพิ่มประสิทธิภาพด้านการติดต่อสือสาร

สักวันจะรู้สึก

วัยรุ่นทุกคนมักคิดว่าเกิดมาก็ต้องความได้รับความสะดวกสบาย
มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป ทำงานก็ทำงาน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ทำ
เพื่อตัวเองทั้งนั้น ทำงานก็หวังแต่จะเอาเงินมาเที่ยวเล่น ซื้อของ
ใช้ส่วนตัว ของสวยงานเท่านั้น ส่วนน้อยที่จะมีใครคิดถึงบุคคล
ที่เลี้ยงดูเรามา จะมีสักคนไหมที่ทำงานแล้วหวังจะนำเงินสักครึ่งหนึ่ง
มาให้บุคคลที่เลี้ยงดูเรามา น้อยคนนักที่คิดถึงเรื่องนี้ แล้วสุดท้าย
ก็เป็นเหมือนกานทุกราย